แก้วกระดาษได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเทคโนโลยีช่วยชีวิตในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และยังคงส่งมอบคุณค่าด้านสุขภาพและความปลอดภัยเช่นเดิมมาจนถึงทุกวันนี้

ในขณะที่โลกกำลังเรียนรู้ที่จะอยู่และรับมือกับไวรัสโคโรนา การรักษาความสะอาดและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคน เมื่อมองแวบแรก แก้วกระดาษที่เราใช้กันในปัจจุบันอาจดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเลย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาประวัติโดยย่อ จะพบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์นี้เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตที่คล้ายคลึงกัน และเป็นตัวเลือกที่ถูกสุขอนามัยมาโดยตลอด

ถ้วยกระดาษสมัยใหม่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ช่วงปลายสงครามกลางเมืองอเมริกา ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 น้ำดื่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเกิดขึ้นของกระแสต่อต้านการดื่มสุราในสหรัฐอเมริกา น้ำเปล่าได้รับการส่งเสริมให้เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพแทนเบียร์หรือสุรา ก๊อกน้ำในโรงเรียน น้ำพุ และถังน้ำบนรถไฟและรถม้า น้ำดื่มนี้ใช้ถ้วยหรือกระบวยที่ทำจากโลหะ ไม้ หรือเซรามิกร่วมกัน  

สงครามกับเชื้อโรค

เพื่อตอบสนองต่อความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับแก้วส่วนกลางที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ทนายความจากบอสตันชื่อลอว์เรนซ์ ลูเอลเลน จึงได้ประดิษฐ์แก้วแบบใช้แล้วทิ้งสองชิ้นจากกระดาษในปี พ.ศ. 2450 

ในเวลาเดียวกัน ดร. ซามูเอล ครัมไบน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งวงการสาธารณสุขยุคใหม่ ได้เริ่มรณรงค์ต่อต้านการใช้แก้วน้ำร่วมกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับวัณโรค มีเรื่องเล่าว่า ขณะที่เขากำลังเดินทางบนรถไฟข้ามรัฐแคนซัส เขาสังเกตเห็นผู้โดยสารจำนวนหนึ่งที่เป็นวัณโรคกำลังดื่มน้ำจากแก้วน้ำร่วมกัน ซึ่งใช้ร่วมกันกับผู้โดยสารที่มีสุขภาพดี เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยที่มีสุขภาพดีดื่มน้ำจากแก้วนั้น มีเรื่องเล่าว่า ดร. ครัมไบน์ กระโดดลงจากที่นั่ง คว้าภาชนะจากผนัง และประกาศว่าทั้งแก้วน้ำและอ่างน้ำร่วมกันจะถูกห้ามใช้โดยรัฐ และพวกเขาก็ถูกห้ามใช้จริงๆ

ฮิวจ์ มัวร์ พี่เขยของลูเอลเลน เป็นผู้สาธิตถ้วยกระดาษต้นแบบให้ดร. ครัมไบน์ดู เรื่องนี้นำไปสู่การก่อตั้งบริษัทน้ำประปาอเมริกันแห่งนิวอิงแลนด์ และโครงการริเริ่มโดยให้สองคนจ่ายน้ำจากกระติกเก็บน้ำพอร์ซเลนทรงสูงที่พวกเขาพัฒนาขึ้น จากนั้น หุ้นส่วนทั้งสองจึงได้ริเริ่มแคมเปญโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์กระติกเก็บน้ำนี้ โดยเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพของถ้วยกระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งส่งผลให้ถ้วยกระดาษของลูเอลเลนได้รับสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2455

ในปี พ.ศ. 2461 ไข้หวัดใหญ่สเปนคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปราว 50 ถึง 100 ล้านคน ในสหรัฐอเมริกา ประชากรเกือบหนึ่งในสามติดเชื้อ และโรคระบาดนี้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่าครึ่งล้านคน ความกลัวเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคนี้ยิ่งทำให้แก้วกระดาษแบบใช้แล้วทิ้งได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีก

วิวัฒนาการยังคงดำเนินต่อไป

ในช่วงทศวรรษปี 1930 สิ่งประดิษฐ์นี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากการประดิษฐ์ถ้วยกระดาษที่มีหูจับ ซึ่งออกแบบมาให้เลียนแบบแก้วที่ใช้ใส่เครื่องดื่มร้อน ไปจนถึงการสร้าง Solo Cup ซึ่งเป็นกรวยกระดาษ

ในปี พ.ศ. 2485 การศึกษาของวิทยาลัยรัฐแมสซาชูเซตส์พบว่าการใช้ถ้วยกระดาษแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการใช้แก้วฆ่าเชื้อเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่ใช้กันในขณะนั้น ผลการศึกษาเหล่านี้ รวมถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อข้ามสายพันธุ์ที่ลดลง นำไปสู่การเลือกใช้กระดาษทดแทนในโรงพยาบาล 

ในฟินแลนด์ช่วงทศวรรษ 1960 Huhtamaki เริ่มผลิตถ้วยกระดาษ   

ถูกกำหนดโดยกระแส

ในช่วงทศวรรษ 1980 เทรนด์อาหารมีบทบาทอย่างมากในการออกแบบแก้วแบบใช้แล้วทิ้ง กาแฟชนิดพิเศษอย่างคาปูชิโน ลาเต้ และกาแฟมอคค่า หรืออะไรก็ตามที่มีฟองนม ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่ชาวอเมริกัน

ปัจจุบันแก้วกระดาษไม่ได้ถูกใช้แค่เสิร์ฟเครื่องดื่มร้อนและเย็นอย่างกาแฟหรือชาเท่านั้น แต่ยังใช้ใส่อาหารอย่างไอศกรีมและซุปได้อีกด้วย ไม่ว่าจะไปออฟฟิศ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด งานกีฬาขนาดใหญ่ หรือเทศกาลดนตรี ก็ต้องเห็นแก้วกระดาษกันอย่างแน่นอน

ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ระดับรายได้ที่สูงขึ้น วิถีชีวิตที่เร่งรีบ และชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน ส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการใช้ภาชนะแบบใช้แล้วทิ้งมาเป็นถ้วยกระดาษเพื่อประหยัดเวลา เนื่องจากถ้วยกระดาษเหล่านี้ปลอดเชื้อ จึงสามารถใช้กับอาหารจานด่วน เช่น บะหมี่และซุป และเครื่องดื่ม เช่น ชาและเครื่องดื่มอัดลมได้

โซลูชันแห่งศตวรรษที่ 21 - ทางเลือกที่สามารถหมุนเวียนและรีไซเคิลได้

เช่นเดียวกับบรรจุภัณฑ์อาหารทุกชนิด รอยเท้าคาร์บอนของถ้วยกระดาษนั้นน้อยมากเมื่อเทียบกับตัวอาหารเอง โซลูชันใหม่ๆ ที่ช่วยลดการพึ่งพาวัสดุจากน้ำมันฟอสซิลได้อย่างมากและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มาถึงแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ถ้วยกระดาษ Future Smart™ ของ Huhtamaki ซึ่งเป็นถ้วยกระดาษที่ผลิตจากพืช 100% รุ่นแรก ถ้วยเหล่านี้เหมาะสำหรับทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น รวมถึงอาหาร ขณะนี้กำลังมีการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาโซลูชันการรีไซเคิลถ้วยกระดาษ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทรีไซเคิล First Mile ได้ร่วมมือกับ Huhtamaki เพื่อเพิ่มจำนวนถ้วยกาแฟแบบใช้แล้วทิ้งที่สามารถรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพในสหราชอาณาจักร

“ผู้บริโภค รวมถึงโครงการริเริ่มและกฎระเบียบของรัฐบาล กำลังเรียกร้องให้ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน ซึ่งผลักดันยอดขายถ้วยกระดาษรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เราเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากมายสำหรับถ้วยกระดาษและเส้นใยโดยรวมในภาคบรรจุภัณฑ์อาหาร” ริชาร์ด อาลี ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนจากกลุ่มธุรกิจเส้นใยและบริการด้านอาหารของ Huhtamaki กล่าว   

ถ้วยกระดาษได้พัฒนามาไกลมากแล้ว มันถูกคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความปลอดภัยและสุขอนามัยของอาหาร และยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่นี้มาจนถึงทุกวันนี้