It's different.
หากคุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟ ร้านเครื่องดื่ม หรือธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ การเลือกใช้ “แก้วกระดาษ” ให้เหมาะกับประเภทเครื่องดื่มคือหัวใจสำคัญ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้าแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและภาพลักษณ์ของแบรนด์ วันนี้เราจะพาคุณเจาะลึกทุกความแตกต่าง พร้อมแนะนำวิธีเลือกแก้วกระดาษคุณภาพสูงและเหมาะกับเครื่องดื่มของคุณ
แก้วกระดาษสำหรับเครื่องดื่มร้อน

1. วัสดุและโครงสร้าง
แก้วกระดาษที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องดื่มร้อนมักจะมีการเคลือบสารกันซึม เช่น โพลีเอทิลีน (PE) หรือ โพลีแลคติกแอซิด (PLA) เพื่อป้องกันการรั่วซึมของของเหลวร้อน โครงสร้างของแก้วกระดาษประเภทนี้มักหนากว่าแก้วกระดาษสำหรับเครื่องดื่มเย็น และบางครั้งจะเป็น แก้วกระดาษสองชั้น (Double Wall) หรือแก้วกระดาษลูกฟูก (Ripple Wall) เพื่อช่วยป้องกันความร้อนที่ส่งผ่านมายังมือของผู้ถือ
2. คุณสมบัติเด่น
- วัสดุหนาและทนความร้อนสูง: สามารถรองรับอุณหภูมิ 80-100°C ได้โดยไม่เสียรูป
- มีฉนวนกันความร้อน: ลดการถ่ายเทความร้อนมายังมือผู้ถือ ช่วยให้ถือได้สะดวกขึ้น
- เหมาะกับเครื่องดื่มร้อนทุกประเภท เช่น กาแฟร้อน ชาร้อน โกโก้ร้อน หรือซุป
- เคลือบกันซึมด้านใน: ป้องกันการรั่วซึมของของเหลวร้อน
- กระดาษหนา 190–270 แกรม เพื่อรับความร้อนของเครื่องดื่มและคงรูปทรง
3. ข้อแนะนำในการใช้งาน
- เลือกใช้แก้วกระดาษที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านอาหาร
- หลีกเลี่ยงการเทของเหลวร้อนจัดลงในแก้วที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับความร้อนสูง
- ควรใช้ฝาปิดแก้วที่แน่นหนาเพื่อลดการรั่วไหลและป้องกันอุบัติเหตุจากน้ำร้อน
แก้วกระดาษสำหรับเครื่องดื่มเย็น

1. วัสดุและโครงสร้าง
แก้วกระดาษสำหรับเครื่องดื่มเย็นมักบางกว่าแก้วร้อน และมี การเคลือบสารกันซึมทั้งด้านในและด้านนอก เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึมและลดการเกิดหยดน้ำที่ผิวแก้ว
2. คุณสมบัติเด่น
- บางกว่าแก้วร้อน แต่เคลือบกันซึมทั้งด้านในและด้านนอก: ป้องกันน้ำแข็งละลายและลดการเกิดหยดน้ำภายนอก
- รองรับน้ำแข็งและเครื่องดื่มเย็นได้ดี โดยไม่เกิดการเปื่อยยุ่ย
- เหมาะกับเครื่องดื่มเย็น เช่น กาแฟเย็น ชานมไข่มุก สมูทตี้ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง
- กระดาษหนา 150 – 210 แกรม เหมาะกับการใส่เครื่องดื่มเย็น
3. คำแนะนำในการใช้
- หลีกเลี่ยงการใช้แก้วเย็นกับเครื่องดื่มร้อน เพราะอาจทำให้เสียรูป
- ควรใช้แก้วที่มีความหนาพอหากต้องใส่น้ำแข็งเยอะ
- ควรเลือกแก้วที่มีฝาปิดเพื่อลดโอกาสหกเลอะเทอะ
วิธีเก็บรักษาแก้วกระดาษให้ใช้งานได้นาน
- เก็บในที่แห้งและเย็น: หลีกเลี่ยงความชื้นและอุณหภูมิสูงที่อาจทำให้แก้วเสียรูป
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง: แสงแดดอาจทำให้วัสดุเคลือบเสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพการกันซึม
- เก็บในบรรจุภัณฑ์เดิมหรือภาชนะที่ปิดมิดชิด: ช่วยป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก
- แยกเก็บแก้วร้อนและแก้วเย็น: เพื่อป้องกันการใช้ผิดประเภท
- อย่าวางของหนักทับ: ป้องกันแก้วเสียรูปหรือชำรุด
มาตรฐานการผลิตและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แก้วกระดาษที่ดีควรผ่านมาตรฐาน FDA, ISO 22000, FSC เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภค แก้วที่ใช้ PLA ย่อยสลายได้เร็วกว่าที่เคลือบ PE ซึ่งเป็นพลาสติก ขณะที่แก้วพลาสติก PET สามารถรีไซเคิลได้แต่ใช้เวลาย่อยสลายนานขึ้น ทำให้แก้วกระดาษ PLA เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า
เปรียบเทียบความคุ้มค่าและการใช้งาน
- แก้วกระดาษร้อนราคาสูงกว่า เนื่องจากมีโครงสร้างที่ทนความร้อนและอาจมีฉนวนเสริม เหมาะสำหรับร้านกาแฟหรือธุรกิจที่ต้องการให้ลูกค้าถือเครื่องดื่มร้อนได้สะดวก
- แก้วกระดาษเย็นราคาถูกกว่า เพราะใช้วัสดุบางกว่า เหมาะกับเครื่องดื่มเย็นทั่วไปและช่วยลดต้นทุนสำหรับร้านที่ขายเครื่องดื่มเย็นเป็นหลัก
- หากต้องการความคุ้มค่าและลดต้นทุน → ควรเลือกแก้วให้เหมาะสมกับประเภทของเครื่องดื่มที่ขายหลักในธุรกิจของคุณ
เลือกแก้วแบบไหนให้เหมาะกับเครื่องดื่มของคุณ?
ร้านกาแฟ/ชา: เน้นแก้วร้อน Double Wall ขนาด 8–12 ออนซ์ + ฝา Push-On Lid
ร้านนมไข่มุก/น้ำผลไม้: เลือกแก้วเย็นขนาด 16–22 ออนซ์ พร้อมฝาแบบโดมและช่องหลอด
ฟู้ดเดลิเวอรี่: ใช้แก้วร้อนที่มีฝาปิดสนิท + ซีลกันหก เพื่อป้องกันการรั่วระหว่างขนส่ง
Leave Your Comment