แก้วกระดาษทำมาจากอะไร? ไขทุกข้อสงสัยที่ร้านกาแฟและคาเฟ่ต้องรู้

แก้วกระดาษทำมาจากอะไร? ไขทุกข้อสงสัยที่ร้านกาแฟและคาเฟ่ต้องรู้

Saturday, Oct 4, 2025 0 comment(s)

ปัญหาที่ร้านกาแฟและคาเฟ่มักเจอกับแก้วกระดาษ

แก้วกระดาษ วัสดุทำจากอะไร ใช้กับธุรกิจด้านไหนบ้าง

สำหรับเจ้าของร้านกาแฟและคาเฟ่ การรู้ว่า แก้วกระดาษทำมาจากอะไร คือหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า วันนี้ ทีมงานหงส์ไทยจะพาไปเจาะลึกทุกส่วนประกอบของแก้วกระดาษคุณภาพสูงที่คุณใช้ทุกวัน ว่ามีที่มาอย่างไรและปลอดภัยแค่ไหน

ปัญหาที่ร้านกาแฟและคาเฟ่มักเจอกับแก้วกระดาษ

หลายร้านเจอปัญหาแก้วรั่ว แก้วนุ่มเมื่อใส่เครื่องดื่มร้อน หรือลูกค้าบ่นว่าแก้วมีกลิ่นแปลกๆ สาเหตุหลักมาจากการใช้แก้วกระดาษที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน

เพราะฉะนั้นการเข้าใจว่าแก้วกระดาษทำมาจากอะไร จะช่วยให้คุณเลือกซื้อแก้วที่เหมาะสมกับธุรกิจ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงร้าน

นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณคำนวณต้นทุนได้แม่นยำขึ้น และสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของอาหารได้อีกด้วยครับ

ส่วนประกอบหลักของแก้วกระดาษ Food Grade

แก้วกระดาษที่ได้มาตรฐานไม่ได้มีแค่กระดาษ แต่มีองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้มันใช้งานได้จริง 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่

1. เนื้อกระดาษจากเยื่อบริสุทธิ์ (Virgin Pulp)

เนื้อกระดาษจากเยื่อบริสุทธิ์ (Virgin Pulp)

เนื้อกระดาษจากเยื่อบริสุทธิ์ (Virgin Pulp) คือ เนื้อกระดาษที่ผลิตขึ้นจาก “ใยไม้ใหม่ 100%” ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานหรือการรีไซเคิลมาก่อน เปรียบเสมือนการนำวัตถุดิบสดใหม่มาปรุงอาหารเป็นครั้งแรก

โดยเส้นใยเหล่านี้ได้มาจากต้นไม้โดยตรง เช่น ต้นสน หรือต้นยูคาลิปตัส แล้วนำมาผ่านกระบวนการสกัดเพื่อแยกเอาเฉพาะเส้นใยเซลลูโลสบริสุทธิ์ออกมาใช้ในการผลิตกระดาษ

คุณสมบัติเด่นของกระดาษเยื่อบริสุทธิ์

  1. ความแข็งแรงทนทาน (Strength) : เนื่องจากเป็นเส้นใยใหม่ที่ยังไม่เคยถูกทำลายโครงสร้าง จึงมีลักษณะยาวและแข็งแรง ทำให้กระดาษที่ได้มีความทนทานสูง ไม่เปื่อยหรือขาดง่าย
  2. ความขาวสว่างและสะอาด (Whiteness & Cleanliness) : เนื้อกระดาษมีความขาวสว่างตามธรรมชาติ ปราศจากสิ่งปนเปื้อนหรือจุดหมึกจากกระบวนการรีไซเคิล
  3. คุณภาพงานพิมพ์ (Print Quality) : ผิวหน้ากระดาษมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอ ทำให้หมึกพิมพ์ยึดเกาะได้ดี ส่งผลให้งานพิมพ์ โลโก้ หรือลวดลายต่างๆ มีความคมชัด สีสันสดใส สวยงามโดดเด่น
  4. ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ (Safety & Hygiene) : เยื่อไม้ใหม่ปราศจากสารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อนตกค้าง จึงนิยมนำมาผลิตเป็น บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร ที่ต้องสัมผัสกับผลิตภัณฑ์โดยตรง

2. ชั้นเคลือบกันซึม PE (Polyethylene)

ชั้นเคลือบกันซึม PE (Polyethylene) แก้วกระดาษ

ชั้นเคลือบกันซึม PE (Polyethylene) คือ การนำฟิล์มพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีน (PE) มาเคลือบรีดทับลงบนพื้นผิวของกระดาษ เพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน (Barrier) ไม่ให้ของเหลว, ความชื้น, หรือไขมันซึมผ่านเข้าไปในเนื้อกระดาษได้

คุณสมบัติและหน้าที่หลักของชั้นเคลือบ PE

  1. กันน้ำและความชื้น (Water & Moisture Proof)
    • นี่คือหน้าที่สำคัญที่สุด เป็นเหตุผลที่แก้วกระดาษสามารถใส่กาแฟ, ชา, หรือน้ำอัดลมได้โดยไม่รั่วซึม เพราะชั้น PE ทำหน้าที่เป็นเหมือนเขื่อนกั้นน้ำไว้
  2. ป้องกันไขมันและน้ำมัน (Grease & Oil Resistance)
    • สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น กล่องไก่ทอด, กล่องพิซซ่า, หรือถุงใส่โดนัท ชั้น PE จะป้องกันไม่ให้น้ำมันจากอาหารซึมออกมาเปื้อนด้านนอก ทำให้กล่องยังคงสภาพสวยงามและไม่ทิ้งคราบมันไว้ที่มือ
  3. เพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดาษ
    • เมื่อกระดาษสัมผัสกับความชื้นหรือไอน้ำ (เช่น จากอาหารร้อน) มันจะอ่อนตัวลง แต่ชั้นเคลือบ PE จะช่วยรักษาโครงสร้างและความแข็งแรงของบรรจุภัณฑ์ไว้ได้ดีขึ้น
  4. ช่วยในการซีลปิดผนึก (Heat Sealing)
    • พลาสติก PE สามารถหลอมติดกันได้ด้วยความร้อน คุณสมบัตินี้ถูกใช้ในกระบวนการผลิตแก้วกระดาษ โดยใช้ความร้อนซีลตะเข็บด้านข้างและฐานของแก้วให้ติดกันสนิทจนไม่รั่ว
  5. ปลอดภัยต่ออาหาร (Food Grade)
    • พลาสติก PE ที่ใช้สำหรับเคลือบบรรจุภัณฑ์อาหารจะเป็นเกรดที่ปลอดภัย (Food Grade) สามารถสัมผัสกับอาหารและเครื่องดื่มได้โดยตรง ไม่มีสารอันตรายปนเปื้อน

แก้วกระดาษคุณภาพสูง มีขั้นตอนการผลิตอย่างไร?

แก้วกระดาษคุณภาพสูง มีขั้นตอนการผลิตอย่างไร

กว่าจะมาเป็นแก้วหนึ่งใบ ต้องผ่านกระบวนการที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน

  1. พิมพ์ลาย : พิมพ์โลโก้และดีไซน์ของคุณลงบนแผ่นกระดาษด้วยหมึกถั่วเหลือง (Soy Ink) ที่ปลอดภัย
  2. ตัดไดคัท : นำกระดาษที่พิมพ์แล้วมาตัดขึ้นรูปตามขนาดของแก้ว
  3. ขึ้นรูปแก้ว : ใช้ความร้อนผสานตัวแก้วและขอบก้นแก้วเข้าด้วยกันจนแข็งแรง
  4. ตรวจสอบคุณภาพ : ทุกใบต้องผ่านการตรวจสอบรอยรั่วและความสมบูรณ์ก่อนบรรจุส่งถึงมือคุณ

ธุรกิจไหนบ้างที่ต้องใช้แก้วกระดาษเป็นหัวใจสำคัญ?

ธุรกิจไหนบ้างที่ต้องใช้แก้วกระดาษเป็นหัวใจสำคัญ

แก้วกระดาษเป็นมากกว่าภาชนะ แต่เป็นส่วนหนึ่งของหลากหลายธุรกิจ เช่น

  • ร้านกาแฟและคาเฟ่ : ขาดไม่ได้เลยสำหรับเมนูกาแฟร้อน, ชาเขียวมัทฉะ, หรือโกโก้เย็น
  • ร้านอาหารและธุรกิจเดลิเวอรี่ : สำหรับใส่เครื่องดื่มคู่กับมื้ออาหาร หรือแม้กระทั่งซุปบางชนิด
  • ธุรกิจจัดเลี้ยง (Catering) : ตอบโจทย์ความสะดวก รวดเร็ว และถูกสุขอนามัยสำหรับงานอีเวนต์
  • โรงภาพยนตร์และสวนสนุก : สำหรับเซ็ตป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม สร้างประสบการณ์ที่ครบครัน

ประเภทแก้วกระดาษที่ร้านกาแฟต้องรู้จัก

ประเภทแก้วกระดาษที่ร้านกาแฟต้องรู้จัก

ไม่ใช่แก้วกระดาษทุกใบจะเหมือนกัน การเลือกประเภทที่ถูกต้องจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

Single Wall Paper Cup (แก้วผนังเดียว)

เป็นแก้วกระดาษแบบพื้นฐานที่มีชั้นเคลือบ PE ด้านใน เหมาะสำหรับเครื่องดื่มเย็นถึงอุ่น (ไม่เกิน 70 องศาเซลเซียส) ราคาประหยัด และใช้งานได้หลากหลาย

Double Wall Paper Cup (แก้วผนังคู่)

มีกระดาษสองชั้นพร้อมช่องว่างอากาศตรงกลาง ให้การกันความร้อนที่เยี่ยม เหมาะสำหรับกาแฟร้อน ชาร้อน หรือเครื่องดื่มอุณหภูมิสูง ลูกค้าสามารถถือได้โดยไม่ร้อนมือ

Ripple Wall Paper Cup (แก้วผนังริปเปิ้ล)

มีลักษณะผิวนอกเป็นลอนคล้ายกระดาษลูกฟูก ให้การกันความร้อนดีเยี่ยมและการจับถือที่แน่นมากขึ้น มักใช้ในร้านกาแฟพรีเมียม เพราะดูหรูหราและทันสมัย

วิธีแยกแก้วกระดาษคุณภาพดีจากแก้วคุณภาพต่ำ

วิธีแยกแก้วกระดาษคุณภาพดีจากแก้วคุณภาพต่ำ

ตรวจสอบความหนาและน้ำหนัก

แก้วกระดาษคุณภาพดีจะมีน้ำหนักที่สม่ำเสมอและไม่บางเกินไป โดยทั่วไปแก้ว 8 oz ควรมีน้ำหนักประมาณ 4-6 กรัม หากน้ำหนักต่ำกว่านี้มาก อาจเป็นสัญญาณว่าใช้วัสดุคุณภาพต่ำ

ทดสอบด้วยน้ำร้อน

ใส่น้ำร้อนอุณหภูมิ 80-90 องศาเซลเซียส ลงในแก้วแล้วรอสัก 2-3 นาที แก้วคุณภาพดีจะไม่เปลี่ยนรูปทรงหรือมีกลิ่นแปลกๆ ส่วนแก้วคุณภาพต่ำอาจอ่อนตัวลงหรือมีกลิ่นเคมี

สังเกตการพิมพ์และสีสัน

แก้วคุณภาพดีจะมีการพิมพ์ที่คมชัด สีไม่ซีดจาง และไม่มีรอยเปื้อนหรือจุดสี แต่แก้วคุณภาพต่ำมักมีการพิมพ์ที่เบลอหรือสีไม่สม่ำเสมอ

ข้อผิดพลาดที่ผู้ประกอบการมักทำเมื่อเลือกแก้วกระดาษ

ข้อผิดพลาดที่ผู้ประกอบการมักทำเมื่อเลือกแก้วกระดาษ

เลือกตามราคาอย่างเดียว

หลายร้านเลือกแก้วราคาถูกสุดโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ ส่งผลให้แก้วรั่ว ลูกค้าไม่พอใจ และอาจต้องเสียเงินทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นเพิ่มอีก

ไม่ทดสอบก่อนสั่งปริมาณมาก

ควรสั่งทดลองก่อนสักแพ็คเล็กๆ เพื่อทดสอบการใช้งานจริง และป้องกันการติดค้างสต็อกที่ใช้ไม่ได้

เก็บในสถานที่ไม่เหมาะสม

การเก็บแก้วในที่ชื้นหรือร้อนจัด อาจทำให้แก้วเสียหายก่อนใช้งาน สูญเสียเงินลงทุนโดยเปล่าประโยชน์ ควรดูแลจัดการเก็บให้ถูกที่เพื่อยืดอายุการใช้งาน และปลอดภัยต่อสิ่งปนเปื้อน

Leave Your Comment